คอลลาเจนใน BTW ดีอย่างไร?

มารู้จักคอลลาเจน

คอลลาเจนไดเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนใน BTW gel เป็นเส้นใยโปรตีนสายสั้นหรือคอลลาเจนขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด หรือน้อยกว่า 300 ดาลตัน หรือเฉลี่ยเพียง 200 ดาลตัน เมื่อเทียบกับคอลลาเจนไตรเปปไทด์และคอลลาเจนธรรมชาติ ซึ่ง”ได” เปปไทด์ตามชื่อนั้นคือมีกรดอะมิโนเพียง 2 ชนิดเท่านั้น การมีขนาดเล็กหรือสั้นมีขัอดีคือจะเดินทางผ่านกระเพาะอาหารโดยไม่ถูกย่อยและไปถูกดูดซึมในลำไส้เล็ก ทำให้ถูกดูดซึมไปนำไปใช้ได้มากกว่าคอลลาเจนรูปแบบอื่น มีกรดอะมิโนหลากหลายถึง 19 ชนิด แต่ที่พบเป็นโครงสร้างหลักเป็นไกลซีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนขนาดเล็ก หรือทุกๆ 3 ชนิดในโครงสร้างจะเป็นไกลซีน (glycine) และพบมากที่สุดที่ผิวหนังทั้งในมนุษย์และปลา นอกจากนั้นมักพบโพรลีน (proline)  และไฮดรอกซีโพรลีน (hydroxyprolene) เป็นต้น

สำคัญแค่ไหน?

คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญหรือเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมด หรือ 6% ของน้ำหนักตัว และพบมากที่สุดถึง 90% ที่ผิวหนัง และกระจายอยู่ในทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่เส้นผม กระดูก กระจกตา เอ็น น้ำไขข้อ ข้อ ผนังหลอดเลือด ผนังต่างๆในร่างกาย เยื่อบุ กล้ามเนื้อ รก อวัยวะต่างๆ ลิ้นหัวใจ และอื่นๆ จึงพบมากมายถึง 29 ไทป์ (ประเภท) และพบบ่อยจำนวน 5 ไทป์

เมื่อเข้าสู่อายุช่วง 25-30 ปีเป็นต้นไป คอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มมีความเสื่อมตามวัยและมากยิ่งขึ้น และหากได้รับโปรตีนหรือแหล่งของคอลลาเจนไม่เพียงพอ ก็จะพบร่างกายพร่องคอลลาเจน ยังเกี่ยวข้องกับอิทธิพลของวิตามินซีและธาตุเหล็ก และยังมีความสัมพันธ์ทางโครงสร้างเคมีและการสังเคราะห์กับสารตัวอื่น ตัวบ่งชี้ที่สังเกตได้ง่ายว่าคอลลาเจนเริ่มเสื่อม คือผิวหนังเพราะเป็นแหล่งของคอลลาเจนมากที่สุด จึงพบริ้วรอยของผิวหนัง แห้งขาดความชุ่มชื้นและขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากคอลลาเจนมีความสัมพันธ์ในการสร้างอีลาสตินและกรดไฮยารูลอนิคของผิวหนัง พอเสื่อมนานเข้าก็เริ่มเหี่ยวย่น

นั่นหมายถึงสัญญานของการเสื่อมของคอลลาเจน และเป็นทั้งร่างกายไม่ใช่เพียงที่ผิวหนังเท่านั้น จึงพบกล้ามเนื้อเสื่อมและลีบ เลือดออกง่ายจากไรฟันหรือผนังเส้นเลือดเปราะบาง ข้อเสื่อมและการผลิตน้ำไขข้อลดลง เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย กระดูกเปราะบาง ภูมิคุ้มกันลดลง และแผลหายช้า เป็นต้น


ตัวปัญหาที่ทำให้เกิดการเสื่อม

ได้แก่ วัย โภชนาการที่ไม่เหมาะสม เช่น การขาดโปรตีน ขาดวิตามินซี หรือสารอาหารจำเป็น ได้รับน้ำตาลมาก แสงแดด บุหรี่ ความเครียด ความเจ็บป่วย

 
ใช้คอลลาเจนอย่างไร?

เมื่อมีการเสื่อมเกิดขึ้น แหล่งของการได้รับทดแทนจึงสำคัญ แม้ว่าเราจะรับโปรตีนได้จากหลายแหล่ง เช่น ปลาแซลมอน เนื้อปลา เนื้อไก่ ถั่ว อัลมอนด์ และพืชผักหลายชนิด หรือแหล่งโปรตีนเวย์ อย่างไรก็ตามการสังเคราะห์คอลลาเจนส่วนใหญ่จะมีไกลซีนเป็นองค์ประกอบหลักทุกๆ 3 ชนิด และมีโพรลีนและไฮดรอกซีโพรลีน แหล่งของการทดแทนจึงนิยมใช้ที่มาของกรดอะมิโนเฉพาะเจาะจงเหล่านี้ จึงนิยมใช้คอลลาเจนในรูปแบบต่างๆ โดยตรง และไดเปปไทด์ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าคอลลาเจนที่มีขนาดใหญ่กว่า

 

ประโยชน์จากคอลลาเจนไดเปปไทด์ใน BTW

กิน BTW ขนาดตั้งแต่ 1-2 ซองต่อวัน (2100-4200 มก คอลลาเจน บางรายงานกินมากกว่านั้นได้ 2.5-5 กรัม) ต่อเนื่อง  8-12 สัปดาห์ เพราะมี “คอลลาเจนไดเปปไทด์” จะช่วยบำรุงผิวและเส้นผมให้แข็งแรง เพิ่ม ”อีลาสติน” ในชั้นผิวหนังให้มีความยืดหยุ่นและเต่งตึง เพิ่มการสร้าง “กรดไฮยาลูรอนิค” ช่วยกักเก็บน้ำในผิวหนังทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวแห้งและริ้วรอย

 

ผิวกระจ่างใส!

BTW วันละ 1 ซอง (2100 มก คอลลาเจน) เพราะมีคอลลาเจนร่วมกับสารสกัดจากเปลือกสน อะเซโลร่าเชอรรี่ ที่เป็นแหล่งของวิตามินซี ยังเป็นแหล่งของวิตามินเอ และวิตามินบีหลายชนิด จึงช่วยบำรุงผิวพรรณ ทนต่อแสงแดดและป้องกันการเกิดฝ้า และผิวหมองคล้ำ จากฤทธิ์ของสารข้างต้น และสารส่วนใหญ่ช่วยเรื่องชะลอวัย

 

ข้อเข่าดี!

เพราะ BTW มี “คอลลาเจนไดเปปไทด์” กิน BTW 1-2 ซอง (2100-4200 มก คอลลาเจน) นาน 90 วันต่อเนื่อง เปรียบเทียบกับสารหรือกรดชนิดอื่นที่เป็นองค์ประกอบของข้อ เช่น “กลูโคซามีน และคอนดรอยติน” พบว่าสามารถลดอาการเข่าเสื่อมได้ถึงร้อยละ 40 ขณะที่สารชนิดอื่นลดอาการได้เพียงร้อยละ 15 พบว่าคอลลาเจนไปช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์เซลล์ใหม่ได้ และเพิ่มขึ้นของ “กรดไฮยาลูโรนิค” ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำเลี้ยงข้อ และไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ไปย่อยน้ำเลี้ยงข้อ


กระดูกและข้อแข็งแรง!

กิน BTW ขนาดตั้งแต่ 2-3 ซอง (4200-6300 มก คอลลาเจน) ต่อวันต่อเนื่องนาน 12 สัปดาห์ เพราะมีคอลลาเจนไดเปปไทด์ จะช่วยเพิ่มมวลกระดูกและทำให้กระดูกแข็งแรง ลดอาการบาดเจ็บบริเวณข้อและกระดูกอ่อน

นอกจากนี้ BTW ยังประกอบไปด้วยแหล่งของกรดอะมิโนสำคัญชนิดอื่น ได้แก่ วาลีน ลูซีน ไอโซลูซีน อาร์จีนีน และทอรีน วิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด และสารสกัดสมุนไพรที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ เช่น สารสกัดจากเปลือกสน สารสกัดจากข่า และอะเชโรลาเชอรรี่ ซึ่งเป็นแหล่งของวิตามินซี เอ และบี และช่วยบรรเทาสาเหตุโน้มนำที่ทำให้เกิดการเสื่อมของคอลลาเจนได้ เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันข้ออักเสบ ป้องกันกล้ามเนื้อเสื่อม ช่วยทนต่อแดด เป็นต้น ช่วยส่งเสริมคอลลาเจนไดเปปไทด์ใน BTW ให้มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมสุขภาพได้ และเห็นผลจริง